วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

การฟอกหนัง คือ อะไร

         การฟอกหนัง ไม่ใช่การทำความสะอาดเพียงอย่างเดียว  ในวงการฟอกหนังสัตว์
เพื่อนำมาทำเครื่องใช้ต่าง ๆ  การฟอกหนังในความหมายนี้คือ  การเปลี่ยนสภาพหนังดิบ ซึ่ง
เน่าเปื่อยได้   ให้เป็นหนังสำเร็จรูปที่คงตัวกว่า ไม่เน่าไม่เปื่อย    มีความทนทานต่อสภาพ
อากาศและน้ำร้อน เพื่อนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์หนังต่างๆ   กระบวนการฟอกหนังนั้น จำเป็นจะต้องมีการใช้สารเคมีต่าง ๆ มาเกี่ยวข้องเช่น   โครเมียม , ฝาด








การฟอกหนัง มีกรรมวิธีการฟอกที่ใช้กันอยู่ 2 วิธี คือ
               1   การฟอกโครม (Chrome Tanning)
                การฟอกประเภทนี้เป็นที่นิยมกว่า เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาด ใช้เวลาสั้น สารเคมีราคาถูก หนังที่ฟอกแล้วทนต่อความร้อนและความชื้นได้ดีกว่า การฟอกโครมเป็นการฟอกที่ทำในถังหมุน ซึ่งจะใส่สารเคมีจำพวกโครม (Chrome) ลงไป
         สารนี้เป็นพวกเกลือของโครเมียม เช่น โครมิก (Chromic) เป็นตัวฟอก ซึ่งจะทำให้หนังมีสภาพเป็นไฟเบอร์ (Fibre) เมื่อนำไปตากแห้งแล้วจะแข็งมีสีเขียว โดยทั่วไปแล้วประมาณร้อยละ 70 ของโครเมียมที่เติมลงไปจะทำปฏิกิริยากับหนัง ที่เหลืออีก ร้อยละ 30 จะถูกปล่อยทิ้งไปกับน้ำเสีย
          การตรึงโครมให้อยู่กับหนัง เพิ่มขึ้นได้ด้วยการปรับค่าความเป็นกรด-ด่าง (PH) ดังนั้นระหว่างการฟอกโครมจึงต้องมีการเติมแมกนีเซียมออกไซด์ลงไปทีละน้อยอย่างช้าๆ เพื่อได้ค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 4.5 หนังที่ผ่านการฟอกโครมแล้วเรียกว่า หนังเขียว (Wet Blue) ขั้นตอนต่อมาคือ การล้างด่าง (Neutralization)
               2   การฟอกฝาด (Vegetable Tanning) การฟอกประเภทนี้จะนำสารสกัดประเภทแทนนินซึ่งสกัดได้จากเปลือกไม้พวกยูคาลิปตัส ควีบราโค และอื่นๆ มาเป็นตัวฟอก ทำได้ในถังไม้ปั่นหรือบ่อคอนกรีตที่ต่อแบบอนุกรม (เรียงๆ กันไป) ทั้งนี้น้ำที่ใช้ฟอกแล้วสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก เพราะสารที่ใช้ฟอกนั้นเป็นสารธรรมชาติ


                ขั้นตอนต่อมาคือ การล้างหนัง (Rinsing) โดยการใช้กรดออกซาลิกล้างฝาดออกจากหนัง เพื่อล้างฝาดส่วนเกิน ซึ่งจะมีผลต่อคุณภาพหนังอย่างมาก จากนั้นหนังที่ได้จากทั้ง 2 วิธีการฟอกจะถูกนำไปรีดน้ำ เพื่อทำให้แห้ง และมีการเจียนผิวด้วยเครื่องตัดแต่งและคัดเลือก เพื่อเก็บไว้รอจำหน่ายหรือแปรรูปตามความต้องการของตลาดต่อไป หนังที่ได้จากการฟอกฝาดนี้จะมีน้ำหนักมากกว่า โดยมากมักจะนำไปผลิตเป็นพื้นรองเท้า เข็มขัด แต่การฟอกฝาดจะมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าการฟอกโครม

                     หนังฟอกเแบ่งตามลักษณะของหนัง คือ หนังทรงหรือหนังชั้นนอก (Upper Leather) เป็นวัตถุดิบในการผลิตรองเท้า เข็มขัด และเฟอร์นิเจอร์

                     หนังท้องหรือหนังชั้นใน (Side Leather) นำมาทำถุงมือและหนังซับในต่างๆ เช่น ซับในรองเท้า กระเป๋า เสื้อหนัง มีความอ่อนนุ่มกว่าหนังชั้นนอก


                   ส่วนการฟอกหนังแบบชาวบ้านๆ ข้อมูลจากหนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน ระบุว่า การฟอกหนังสัตว์ ให้รวบรวมหนังสัตว์หมักด้วยเกลือในอัตราส่วน 1 : 1 คือ ใช้หนังสัตว์ 1 ส่วน หมักเกลือ 1 ส่วน คลุกเคล้าให้ทั่ว หมักไว้ไม่เกิน 1 เดือน จากนั้นนำมาล้างน้ำให้สะอาด เตรียมฟอกย้อม ด้วยการใช้โซเดียมซัลไฟต์และปูนขาว เพื่อกำจัดขน ไขมัน และเศษเนื้อ หมักไว้ 1 สัปดาห์ นำมาล้างน้ำอีกครั้งจนสะอาด แล้วใช้โครเมียมออกไซด์ในรูปผง 20-25% ต้มในน้ำอุ่นที่อุณหภูมิ 66 องศาเซลเซียส พร้อมเติมสีตามความต้องการ นำขึ้นผึ่งลมให้แห้ง หรือนำเข้าเครื่องอบ จากนั้นนำออกตัดแต่งผืนหนังให้สวยงามตามต้องการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น